เริ่มมาจากทฤษฎี "หยิน-หยาง" ในทางฮวงจุ้ย คงพอได้ยินกันมาบ้าง "หยิน" คือ พลังของความสงบนิ่ง เป็นตัวแทนของเพศหญิงและเวลากลางคืน "หยาง" คือ พลังแห่งการเคลื่อนไหว เป็นตัวแทนของเพศชายและเวลากลางวัน
โดยปกติแล้วในร่างกายคนเราจะอัดแน่นไปด้วยพลังงานแห่ง "หยาง" ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวภายนอก หรือการเคลื่อนไหวภายใน การสูบฉีดของหัวใจ ตับ ปอด ฯลฯ และเมื่อใดก็ตามที่ร่างกายหมดวาระ เรียกง่ายๆ ว่า ถึงแก่ความตาย พลังงาน "หยาง" ในร่างกายจะดับลง คงเหลือแต่พลังงาน "หยิน" ในรูปแบบของจิตวิญญาณ หรือพลังงาน ที่ไม่อาจมองเห็นด้วยตาเปล่า ไม่อาจสัมผัสด้วยการเคลื่อนไหว
ถามว่า...บ้านแบบไหน จะมีพลังงานหยินเช่นนี้ไปสถิตย์หรือสิงสู่ การพบกับปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติเช่นนี้ ก็เหมือนการปรับจูนคลื่นวิทยุ ที่ตรงกัน ดังนั้นบ้านที่เต็มไปด้วยพลังงาน "หยิน" จึงจูนกับจิตวิญญาณ ได้ง่าย บ้านผีสิงส่วนใหญ่มักเป็นบ้านร้าง เฮี้ยนครองแชมป์ตลอดกาล เพราะไม่มีคนอาศัย สงบเงียบ มืด ทึบ เหม็นอับ จะจับพลังงาน "หยิน" ได้ง่าย
แต่ใช่ว่าบ้านที่มีคนอยู่ ผีจะไม่กล้าอยู่! หากเมื่อใดที่ไฟฟ้าในบ้าน เริ่มติดๆ ดับๆ สายน้ำในบ้านเริ่มเคลื่อนไหวผิดปกติ น้ำรั่วซึม โดยไม่มีสาเหตุ ต้นไม้เฉาตายคาต้น สัตว์เลี้ยงเจ็บป่วยกระเสาะกระแสะ นั่นแสดงว่า เริ่มมีพลังงานบางอย่างแทรกซึมเข้ามาภายในบ้านของคุณแล้ว
นอกจากนี้ยังมีองค์ประกอบอื่นๆ ที่ชวนเฮี้ยนไม่แพ้กัน บ้านที่ด้านหน้าเป็น ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ด้านหลังเป็น ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ยกให้เป็นประตูเปิดสู่โลกวิญญาณ โอกาสรับคลื่นพลังงานเหนือธรรมชาติมีได้ง่าย และเลขที่บ้าน ก็ชวนขนหัวลุก อย่ามองข้าม...
บ้านใคร บวก ลบ คูณ หาร อย่างไร ก็ตกเลข 9 ลงท้ายด้วยเลข 9 หรือ อุดมไปด้วยเลข 0 สุดยอดเลขเด็ดเรียกวิญญาณ เตรียมขวัญผวาไว้เลย
ถามว่า...แล้วจะต้องทำอย่างไร ถ้าไม่อยากให้ผีร่วมชายคาบ้าน ไม่ต้องเสียเวลาไปหาพ่อมดหมอผีที่ไหน หลักฮวงจุ้ยช่วยได้ ด้วยวิธีที่ง่ายกว่า แค่ปรับคลื่นพลังงานในบ้านใหม่ ไม่ให้ตรงกับพลังงานเฮี้ยน อันดับแรก เปิดประตู-หน้าต่าง รับสายลมแสงแดด เพิ่มเสียงเพลงกระตุ้นพลังงาน "หยาง" ให้ฟื้นตัว สร้างความเคลื่อนไหวให้บ้านด้วยกระดิ่งหรือโมบาย และที่สำคัญ คนในครอบครัวหมั่นอยู่กันให้พร้อมหน้า อย่าปล่อยบ้านทิ้งร้าง พลังงาน "หยาง" ก็จะค่อยๆ เบียดพลังงาน "หยิน" ออกไป ทางใครทางมัน แล้วบ้านก็จะยังเป็นบ้านเรา ไม่ใช่บ้าน ผี!